คุณธรรมจริยธรรมในการใช้อินเทอร์เน็ต
การใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลกได้ก่อให้เกิดผลกระทบทั้งในส่วนที่เป็นผลดีและที่เป็นผลเสียมากมาย ปัญหาที่สำคัญคืออินเทอร์เน็ตกลายเป็นสังคมอีกสังคมหนึ่งของโลก ซึ่งคนจำนวนมากสามารถใช้ติดต่อกัน แต่สังคมปัจจุบันแตกต่างจากสังคมในอดีต คือเป็นสังคมที่เสรีและในระดับโลกไม่มีกฎหมายของสังคมมาใช่บังคับ ทุกคนที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องจึงต้องระมัดระวังตัวเองให้มากและต้องรู้เท่าทัน หากทุกคนคำนึงถึงหลักคุณธรรมและจริยธรรมในการปฏิบัติต่อกันแล้ว ปัญหาก็จะลดลงไปได้มาก
๑ ผลกระทบของการอินเทอร์เน็ต แต่เดิมนั้นเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมีใช้ในเฉพาะในไม่กี่ประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา บางประเทศในยุโรปและออสเตรเลีย มีใช้เฉพาะในหน่วยงานภาครัฐบาล ดังนี้คือ
๑.๑ ใช้ในกลุ่มงานวิจัยในมหาวิทยาลัย ในทศวรรษ ๑๙๙๐
๑.๒ ใช้ในวงการธุรกิจทำให้เกิดธุรกิจใหม่ที่ให้บริการเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตโดยผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ส่วนใหญ่เกิดวิกฤติการณ์ดอทคอม ทำให้ธุรกิจนี้ล้มละลาย ส่วนน้อยที่ผ่านวิกฤตินี้ประสบผลสำเร็จจนทำให้ขยายตัวธุรกิจนี้ขึ้นมาอีกครั้ง
๑.๓ ใช้ในทางการศึกษา เพื่อค้นหาความรู้ทั้งในระบบและนอกระบบอย่างกว้างขวาง
๑.๔ ใช้ในการบันเทิง
จากปรากฏการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดผลกระทบมากมาย ดังนี้คือ
ด้านบวก อินเทอร์เน็ตเป็นผลดีต่อการศึกษา จากการค้นหาข้อมูลจากเว็บเพ็จจำนวนมากมาย ไม่ต้องเสียเวลาค้นหาในห้องสมุดนาน มีข้อมูลสามารถเรียกดูได้ในเวลารวดเร็วและมีความบันเทิงมากมายที่ไม่ต้องออกหาตามแหล่งบันเทิงนอกบ้าน สะดวกและรวดเร็วในการติดต่อสื่อสารระหว่างบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่อยู่ห่างไกล
ด้านลบ ข้อมูลจำนวนไม่น้อยที่อยู่ในอินเทอร์เน็ตเชื่อถือไม่ได้ บางส่วนเป็นภัยต่อเด็กและเยาวชนซึ่งมีวุฒิภาวะไม่เพียงพอที่จะแยกแยะอาจถูกล่อลวงและถูกหลอกได้ เช่นเว็บไซต์สื่อลามกอนาจารหรือความรุนแรง บ่อนการพนันการละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่น
๒. มารยาท ระเบียบและข้อบังคับในการใช้อินเทอร์เน็ต เนื่องจากมีผู้ใช้บริการมากมาย ผู้ใช้จึงควรปฏิบัติตามมารยาทและข้อบังคับในการใช้อย่างเคร่งครัด ดังต่อไปนี้
๒.๑ ต้องให้เกียรติผู้อื่นที่ติดต่อในระบบเครือข่ายแม้จะไม่รู้จักกัน
๒๒ ใช้ภาษาที่สุภาพ ไม่ใส่ร้ายหรือกลั่นแกล้งบุคคลใดเป็นการส่วนตัว
๒.๓ ไม่ควรใช้ภาษาอังกฤษเป็นตัวพิมพ์ใหญ่ในห้องสนทนา เป็นการใช้ภาษาไม่สุภาพ
๒.๔ อย่าหลงเชื่ออีเมล์ที่ปล่อยข่าวลือ ขายสินค้าที่ต้องโอนเงินผ่านอินเทอร์เน็ต
๒.๕ ไม่ควรส่งอีเมล์ที่เป็นไวรัสแนบไป เพราะเป็นปัญหาให้ผู้อื่น
๒.๖ ห้ามเปิดข้อมูลจากแหล่งที่ไม่น่าไว้วางใจ
๒.๗ ถ้าได้รับอีเมล์ที่ส่งต่อมาเป็นลูกโซ่ไม่ควรส่งต่อ มีความเสี่ยงอาจตกเป็นผู้ต้องหาผู้เผยแพร่ข่าวสารที่ผิดกฎหมาย
๓. ความรับผิดตามกฎหมายในการเผยแพร่สารสนเทศ ประเทศไทยเรามีกฎหมายควบคุม คือพระราชบัญญัติว่าการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ ผู้เผยแพร่ข่าวสารลักษณะต้องห้ามต้องได้รับโทษทางอาญา (ทั้งจำทั้งปรับ) และอาจต้องยังต้องรับผิดทางแพ่ง คือต้องชดใช้ค่าเสียหาย กฎหมายถือว่าผู้ส่งต่อข้อมูลข่าวสารมีความผิดเช่นเดียวกับผู้เริ่มต้นเผยแพร่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น